-หลอก-
Gyumyung
สวัสดีครับ ผมซองกยู คิม ซองกยู ปี 4” ผมแนะนำตัวกับนักศึกษาปี 1 คณะเดียวกัน วันนี้เป็นวันเปิกเทอมแรกของภาคเรียนผมอยู่ปี 4 ที่อีกไม่กี่วันก็จะออกฝึกงานตามตารางมหาลัย ผมกวาดดวงตาอันเรียวเล็กของตนเองมองไปยังรุ่นน้องที่ยังไม่รู้ประสีประสา ยังไม่รู้จักความโหดร้ายของคำว่า รั้วมหาลัยและคำว่า สอบไฟนอล ผมสะดุดตาที่ร่างนึง ผมสีดำขลับของเค้าเป็นที่แตะตา ผมอาจจะจ้องเค้ามากเกินไปทำให้เค้าจ้องผมกลับมาเหมือนกัน
‘ถูกใจ’
คำนี้เด้งขึ้นมาในหัวผม ในมหาลัยนี้ไม่มีใครไม่รู้จักซองกยู รุ่นพี่สุดหล่อคณะวิทย์ ฉายาราชาจิ้งจอก กิตติศักดิ์เลืองลือยิ่งหนัก มันน่าภูมิใจในหน้าตาและชาตกูลจริงๆ ผมควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าหรืออาจจะเรียกว่าไม่ซ้ำสัปดาห์ จะวันมันก็มากไป ผมรักสนุกใครจะทำมั้ย
“ปี 1 คนนี้ชื่ออะไรหรอว่ะ” ผมหันไปถามเพื่อน
“แหมมาถึงมึงก็จะออกลายเลยหรอครับคุณ”
“ชื่อไรล่ะ” ผมยักไหล่
“คนไหนว่ะ กูรู้บ้างคนนะ ชี้ดิ” ผมชี้เด็กนั้นให้เพื่อนดู
“คนนั้น”
“เช้เล่นของดีอีกล่ะ มึงไม่รู้หรอนั้นน้องมยองซู คนที่สอบได้ที่ 1 ของคณะ” อ้อ อย่างนี่นี้เอง เด่นไม่ใช่น้อย
“สมศักดิ์ศรี”
“เห็นว่าจะให้น้องลงเดือน แต่น้องปฏิเสธ เป็นเด็กที่เงียบชิบหาย” เล่นยากสินะ อยากจะรู้ว่าจะแน่สักแค่ไหน
“รอดูนะ”ผมกอดอกพรางมองตรงไปที่คนร่างบาง
“หึ มึงจะทำไม”ไอ้โฮวอนเพื่อนสนิทที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนถามขึ้น แต่ผมรู้ว่ามันไม่โง่พอที่จะคิดไม่ออกว่าผมหมายถึงอะไร
“ผมรอดูเด็กใหม่กูได้เลย”ว่าจบผมก็เดินไปนั่งที่ศาลาข้างลานกิจกรรม แต่สายตาก็มองน้องคนนั้นไม่หยุดจนผมสังเกตได้ว่าหน้าอีกคนเริ่มจะมีสีแดงอ่อนๆขึ้นตรงแก้ม หึ เขินสินะ
“ขอดูทะเบียนเด็กปี 1หน่อยสิ”ผมบอกน้องปีสองที่เป็นคนคุมการรับน้อง
“นี้ค่ะ พี่จะดูทำไม”หญิงสาวที่ผมเคยควงยื่นแฟ้มรายชื่อนักศึกษาให้ผมพรางถามอย่างสงสัย
“แล้วทำไมฉันต้องบอกเธอ”ผมตอกกลับอย่างไม่ใส่ใจพรางเปิดแฟ้มดู มันคงจะพอให้ผมรู้ข้อมูลของน้องเขาได้บ้าง
‘ชื่อ คิม มยองซู
อายุ 19 ปี
วัน/เดือน/ปีเกด 13 มี.ค. 19xx
ฉายา แอลคิม
จบการศึกษาจาก อุลลิมไฮสคูล
สถานะ โสด’
“โสดซะด้วย”ผมพึมพัมออกมาพรางยกยิ้มอย่างพึงพอใจ
“ไงเพื่อนถึงขั้นมาดูทะเบียนเลยหรอ”โฮวอนว่าพรางชะโงกมองแฟ้มในมือผม
“เออสิ แม่งน่ารักชิพ”
“น้องดูจะเป็นคนดี กูว่ามึงอย่าเลย”โฮวอนว่าด้วยสีหน้าที่ดูจริงจังขึ้น
“กูจะเอา มึงอย่ามาห้ามดีกว่า”ผมบอกเพื่อนอย่างไม่ใส่ใจไม่ว่ากับใครมันก็บอกผมแบบนี้ตลอดแหละ ถามว่าผมฟังไหม?? ก็ไม่
“กูเตือนมึงแล้วนะ”ไอ้โฮวอนว่าพรางยกนิ้วชี้หน้าผม
“นี้มึงกล้าชี้หน้ากูหรอไอ้วอนเดี๋ยวกูถีบเลย”
“555วิ่งให้ทันกูนะไอ้หนูท่อ”
“มยองๆ”มยองซูสะดุ้งเมื่อถูกเพื่อนข้างๆสะกิด
“มีอะไรหรออูฮยอน”ถามเพื่อนอย่างสงสัยก่อนจะมองตามนิ้มป้อมๆสั้นๆนั้นไป
“ดูพี่เขาดิ วิ่งไล่กันเป็นเด็กเลย”อูฮยอนว่าขำๆแต่พอมยองเห็นว่าคนนั้นเป็นใครใบหน้าน่ารักก็รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมา
“ไม่หน้าเชื่อเลยนะว่าพี่ซองกยูจะมีมุมแบบนี้ด้วย”
“คนไหนชื่อซองกยูหรอ”มยองซูถามอน่างสงสัยเพราะเห็นมีสองคน
“พี่คนตัวสูงๆไงหล่อๆอะเมื่อกี้แกไม่ได้ฟังพี่เขาแนะนำตัวหรอ ส่วนคนเตี้ยๆป้อมๆนั้นชื่อพี่โฮวอนจะเรียกว่าโฮย่าก็ได้นะ”อูฮยอนว่าแล้วสะกิดเพื่อนที่ดูเหม่อลอยเบาๆ
“ไอ้จงแกดูเหม่อๆนะ”อูฮยอนโบกมือไปมาตรงหน้าซองจงที่นั่งเหม่อลอยอยู่ข้างๆ
“อะอ่อ แล้วพี่โฮย่านี้มีแฟนยัง”
“ห้ะ/ห้ะ”มยองซูกับอูฮยอนมองหน้าเพื่อนอึ้งๆ
“ชอบหรอ”อูฮยอนถาม
“อือ”
“ไอ้เตี้ยนั้นยังไม่มีแฟนหรอก จีบใครก็ไม่ติด กวนตีนไปวันๆ”อูฮยอนว่าแล้วเบ้ปากเมื่อพูดถึงอีกคนที่เป็นคู่กัดกันมาตั้งแต่เด็กๆ
“แล้วแกรู้เรื่องเขาขนาดนี้ได้ไง”มยองซูถามอย่างสงสัย
“ก็บ้านมันอยู่ข้างบ้านฉันไง”
“อ่อ”
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะน้องๆพรุ่งนี้เจอกันที่เดิมหลังเลิกเรียน เข้าใจนะ”เสียงรุ่นพี่ดังขึ้นทำให้ทั้งสามคนต้องหันกลับไปมอง
“ครับ/ค่ะ”
“แล้วก็น้องสามคนนั้นพี่เห็นคุยกันตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว น้องต้องโดนทำโทษ ส่วนคนอื่นๆกลับบ้านได้”รุ่นพี่ว่าพรางชี้มาที่กลุ่มของมยองซูทำเอาทั้งสามคนต้องหันมามองหน้าดันอย่างงุนงง
“มา น้องสามคน พี่จะไม่ถามนะว่าคุยเรื่องอะไรแต่น้องต้องไปเก็บขยะรอบตึกนี้ เก็บให้ได้ 100 ชิ้นพี่ถึงจะปล่อยกลับบ้าน โอเคนะครับ”
“โอเคก็ได้ครับ”ซองจงว่าเสียงเนือยๆ
“โอเคไหม”รุ่นพี่ตะคอกเสียงดังจนทั้งสามคนสะดุ้ง
“โอเคคร้าบบบ”ว่าจบก็โค้งให้รุ่นพี่ก่อนจะพากันเดินไปเก็บขยะ
“ว่าที่เด็กมึงโดนทำโทษว่ะ”ดูจุนเพื่อนที่ผมถามชื่อน้องมยองซูพูดขึ้นพรางชี้ให้ผมดูน้องที่ก้มๆเงยๆเก็บขยะอยู่
“พวกมึงกลับไปก่อนเลยนะ”ผมไม่ตอบอะไรไอ้ดูจุนแต่หันไปบอกเพื่อนคนอื่น
“อ้าว แล้วมึงไม่กลับหรอไหนวันนี้จะไปแดกเหล้ากันไง”ซองยอลโวยวายขึ้น
“กูไม่ไปล่ะ กูติดธุระ พวกมึงไปบอกไอ้รุ่นน้องที่ว๊ากเมื่อกี้ให้ทีว่าเดี๋ยวกูเฝ้าเด็กสามคนนี้เอง”
“มันมีแผนเว๊ย”ไอ้โฮวอนแซว
“กะเอาให้ได้จริงๆว่ะ”
“เรื่องของกู ไปทำที่กูสั่งไป”ผมว่าก่อนจะเดินไปอีกทาง
“ไปไหนมันว่ะ แล้วมาสั่งกูเหมือนพ่อเลย”ซองยอลบ่นแต่ก็ยอมยกกระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วเดินไปพร้อมกับเพื่อนๆ
เด็กหนุ่มทั้งสามคนพากันเก็บขยะมารอบตึกต่างคนต่างคนไปคนละทางแต่อูฮยอนกับมยองซูก็เดินมาเขอกันพอดี
“แม่งเหนื่อย แล้วขยะนี้หายากเย็นไม่คิดจะทิ้งกันไว้บ้างหรอว่ะ”อูฮยอนบ่นขึ้สมาพรางชูขยะที่เก็บได้ไม่กี่ชิ้นให้มยองซูดู
“เอาน่า เก็บๆไปก่อนเดี๋ยวพี่เขาเห็นว่าเย็นแล้วเขาก็ให้กลับเองแหละ”มยองซูว่าแล้วลูบหหลอูฮยอนเบาๆให้เพื่อนคลายโมโห
“อย่าว่าแต่เย็นเลยนี้มืดแล้วด้วยซ้ำ”ซองจงที่โผล่มาจากข้างหลังมยองซูบ่นขึ้น
“หนีกันไหน”อูฮยอรเสนอ
“ถ้าถูกจับได้นะไม่อยากนึงสภาพ”ซองจงส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เห็นด้วยกับความคิดอูฮยอน
“น้องๆครับ”ทั้งสามคนรีบหันไปมองที่มาของเสียงทันที
“พี่ซองกยู”มยองซูพึมพัมเบาๆ
“อะ พี่เก็บมาให้”ซองกยูยื่นถุงขยะใบไม่ใหญ่มากให้ทั้งสามคน
“ทำไม.. “อูฮยอนจะเอ่ยถามแต่เสียงเข้มก็พูดขึ้นมาก่อน
“พี่เห็นว่ามันมืดแล้วน่ะ เลยช่วยเก็บมาให้เอาไปส่งพวกปี 2 สิ”ซองกยูว่าแล้วส่งยิ้มหวานไปให้เมื่อรุ่นน้องทั้งสามคนโค้งขอบคุณ ก่อนจะมองตามหลังเด็กทั้งสามคนที่เดินไปตรงลานกิจกรรม
“อ้าว พี่เขาไม่อยู่กันแล้วหนิ”เมื่อเดินออกมาไม่เห็นมนุษย์สักคนซองจงก็พูดขึ้น
“แล้วให้เราไปเก็บขยะแต่หนีกลับเนี่ยนะ”มยองซูว่าพรางทำหน้าอย่างไม่สบอารมณ์
“พี่ซองกยู ทำไมไม่เห็นพี่เขาสักคน”อูฮยอนหันไปถามซองกยูที่เดินตามหลังพวกเขามา
“เมื่อกี้พี่ยังเห็นอยู่เลย สงสัยหนีกลับไปแล้วมั้ง ทำแบบนี้โครตแย่เลย”ซองกยูสบถด่าพวกรุ่นน้องอย่างหัวเสีย ทั้งๆที่ในใจกำลังแอบยิ้มอยู่
“แล้วขยะพวกนี้ล่ะครับ”ซองจงถามขึ้น
“เดี๋ยวพี่บอกพวกนั้นเองว่าน้องเก็บครบแล้วพี่จะจัดการเด็กพวกนั้นให้นะ”ซองกยูว่าแล้วเดินไปดึงถุงขยะจากมือทั้งสามคน
“ขยะพวกนี้.. “
“เดี๋ยวพี่เอาไปทิ้งให้ เรากลับกันเถอะ”
“เดี๋ยวพวกผมทิ้งเองครับ”มยองซํว่าแล้วจะเดินไปแย่งถุงขยะจากมือซองกยูแค่อีกฝ่ายก็เบี่ยงตัวหลบก่อน
“พี่อุตสาห์ไปเก็บมาให้แล้วเดี๋ยวพวกผมเอาไผทิ้งเองครับ”อูฮยอนว่าซองกยูจึงถอนหายใตแล้วยื่นถุงขยะให้น้องๆ
“เรากลับกันยังไงให้พี่ไปส่งไหม”ซอฃกยูเสนอขึ้นมา
“ผมเอารถมาครับ”อูฮยอนว่า
“แล้วอีกสองคนล่ะ”
“ก็กลับกับอูฮยอนครับ เดี๋ยวให้มันแวะส่ง”ซองจงว่า
“งั้นหรอ ขับรถกลับกันดีๆนะ”ซองกยูว่าก่อนจะโบกมือลาน้องๆ
หลังจากลากับน้องๆผมก็เดินมาขึ้นรถของตัวเองก่อนจะขับออกไปทันทีเพราะวันนี้ผมมีนัด ผมคิดว่าที่ผมทำไปเมื่อกี้มันคงไม่สูญเปล่าเพราะผมกะทำคะแนนเป็นคนดีให้เด็กพวกนั้นชื่นชมพอผมจะจีบน้องมยองซูจริงๆอะไรๆมันคงจะง่ายขึ้นถ้าผมเริ่มเรียกคะแนนก่อน ความจริงแล้วผมไม่ได้เก็บขยะให้เด็กพวกนั้นหรอก หลังจากที่แยกจากเพื่อนๆผมก็เดอนไปบอกภารโรงให้แยกขยะให้ผมสักสามถุงแล้งผมก็เอาไปแอบอ้าง ผมนี้มันฉลาดจริงๆ
“ซองกยูคิดถึงจัง”ชายหนุ่มร่างเล็กเปิดประตูออกมาพรางกระโดดกอดผมที่ยืนอยู่หน้าห้อง
“ไงครับ”ผมเอ่ยพรางดันเขาเข้าไปในห้องแล้วผละกเขาเข้ากับกำแพงก่อนจะกักขังเขาไว้มต้อานัติ
“ไม่ได้มาหายุนแจนานนึกว่าลืมกันแล้วซะอีก”ผมยกยิ้มออกมาก่อนจะก้มลงไปประกบจูบอีกคนอย่างเร้าร้อนก่อนจะอุ้มอีกคนขึ้นและตรงไปที่ห้องนอน นี้ล่ะครับชีวิตผม ทำตัวเสเพลไปวันๆผมรู้ตัวนะแต่มันติดเป็นสันดานไปแล้ว ผมไล่จีบคนนู้นทีคนนี้ทีถ้าได้แล้วผมก็ทิ้งแต่ส่วนมากพวกสาวๆหนุ่มน้อยก็พากันเข้าหาผมก่อนนะแต่ผมก็ยังไม่คิดจะคบใครจริงจังหรอกผมว่าชีวิตแบบนี้มันก็สนุกดี
------แชท------
“อะเบอร์น้อง นี้ก็ที่อยู่ พอใจนะ”ซองยอลว่าแลเววางแผ่นกระดาษที่เขาร่างเป็นแผนผังเป็นเบอร์ ไลน์ ที่อยู่ของน้องมยองซูที่ไปสืบจากคนใกล้ตัวน้องมา
“ดีมากเดี๋ยวให้เงินไปกินเหล้า”ซองกยูว่าแล้วหยิบกระดาษขึ้นมาดูก่อนจะยกยิ้มขึ้นอย่างชอบใจ
“ไม่ไปด้วยกันเหรอ”ดูจุนถามขึ้น
“ไม่ว่ะ”
“ถามแปลกมันได้แผนผังชีวิตน้องมาขนาดนี้มันก็ต้องไปทำคะแนนกับน้องสิ”โฮวอตผู้เป็นเพื่อนรักของซองกยูพูดขึ้นอย่างรู้ทัน
“จริงจังหรอ”ดูจุนถาม
“ก็เหมือนที่ผ่านๆมาอะ”ซองกยูตอบอย่สงไม่ใส่ใจ
“แต่กูว่าน้องแม่งดูน่ารักเรียบร้อยขนาดนี้มึงจะทำได้ลงหรอ”ซองยอลว่าเอาจริงๆเขาก็อดสงสารมยองซูไม่ได้ถ้าต้องโดนไอ้แปะมันหลอกจริงๆ
“มันแคร์ที่ไหน แต่น้องดูจีบยากว่ะเมื่อวานไอ้เดือนวิศวะมาขอเบอร์น้องยังไม่ให้เลย”โฮวอนว่าพาางนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อวานมีคนหล่อมาจีบขสฝนาดนั้นแต่มยองซูกลับเดินผ่านหน้าไปซะเฉยๆ
“เพราะน้องรู้ตัวไงว่าต้องมาเป็นแฟนกูเลยไม่ยอมให้ไอ้หน้าไหนมาจีบ”
“มั่นหน้า”เพื่อนทั้งสามคนประสานเสียงกัรด่าแน่ซองกยูก็ไม่ได้สนใจก่อนจะหยักไหล่แล้วเดินออกจากห้องแลปไป
หลายวันต่อมา
“พี่ไปส่งนะครับ”ซองกยูว่าพรางดึงหนังสือและชีทเรียนต่างๆในมือของมยองซูมาถือเอง
“ไม่ดีกว่าครับเดี๋ยวผมกลับกับพวกอูฮยอน”ร่างบางตอบปฏิเสธ
“ให้พี่ไปส่งเถอะ พี่อยากไปส่งเรา”ซองกยูทำหน้าอ้อนวอนจนมยองซูหลุดขำ
“งอแงจังนะครับ”มยองซูว่าขำๆก่อนจะเข้าไปนั่งในรถคันหรูที่ซองกยูเปิดประตูรอ
“ไม่กลัวโดนหลอกรึไง”
“ไม่เกินคืนนี้หรอกหมอนี้ถูกซองกยูฟันแน่”
“พรุ่งนี้ซองกยูก็คงจะควงคนใหม่”
“หน้าโง่ๆแบบนั้นตามซองกยูไม่ทันหรอก”
หลังจากที่รถคันหรูได้ขับเคลื่อนออกไปจากบริเวณมหาลัยเสียงซุบซิบที่ไม่เบาก็ดังขึ้นจากนิสิตที่รู้จักสรรพคุณของคิมซองกยูดีแต่หารู้ไม่ว่าบทสนทนาทั้งหมดนั้นผู้เป็นเพื่อนของมยองซูอย่างซองจงได้ยินทั้งหมด
“ว่าแล้วมันมีอะไรแปลกๆที่แท้พี่ก็คาสโนว่าสินะ”ซองจงพึมพัมออกมาดวงตาบ่งบอกถึงความไม่พอใจซองกยูและคนที่พูดลับหลังมยองซูอย่างมาก
“ฉันจะช่วยแกให้หลุดพ้นจากคนแบบนั้นยังไงดีมยองซู”
3 เดือนต่อมา
“อืม อีกนิดครับ”เสียงครางต่ำของคนร่างสูงที่กำลังกอบโกยความสุขจากมยองซูดังขึ้น จังหวะที่ถูกส่งมาจากซองกยูทำให้ร่างบางสั่นครอน เสียงเตียงกระทบกับผนังดังเป็นจังหวะแต่คนที่กำลังทำตามใจหาสนใจไม่จนพาตัวเองไปถึงจุดหมายแต่ก็ไม่มีทีท่าจะหยุดการกระทำ
“พอแล้ว”มยองซูบอกพรางดันแผ่นอกแกร่งของอีกคนให้ออกห่าง ซองกยูถอนหายใจเบาๆอย่างอารมณ์เสียแต่ก็ยอมหยุดให้ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างร่างบาง
“ผมยอมตามใจพี่แล้วนะครับ”มยองซูว่าแล้วขยับไปนอนซบอกร่างสูง เขากับซองกยูคบกันได้สามเดือนแล้ว แต่การคบกันของพวกเขาก็อยู่ท่ามกลางความไม่ชอบใจของซองจงและอูฮยอนที่ไม่รู้เป็นอะไรทำไมถึงขีดขวางไม่ให้มยองซูคบกับพี่ซองกยูแม้แต่เพื่อนของซองกยูเองก็บอกมยองซูให้ระวังพี่ซองกยูดีๆแต่ร่างบางก็ไม่ได้ใส่ใจในเมื่อเขารักพี่ซองกยู
“เราควรจะยอมพี่ตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ”ซองกยูว่าแล้วยกมือโอบร่างบาง ตัวเขาเองก็แปลกใจเหมือนกันที่คบกับมยองซูได้นานขนาดนี้ มันอาจจะไม่ถึงปีเหมือนคู่อื่นๆแต่มันนานเกินมารตฐานของเขาไปแล้วจริงๆ คนอื่นไม่เกินสามวันแต่กับมยองซูนี้สามเดือนแล้ว อาจจะเพราะว่ามยองซูว่านอนสอนง่ายทำให้อยู่ด้วยแล้วสบายใจล่ะมั้ง
“ผมไม่พร้อมหนิ อีกอย่างมันไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไร”มยองซูว่าแล้วช้อนตามองร่างสูง
“ไม่เหมาะสมอะไรล่ะ คนเป็นแฟนกันเขาก็ทำแบบนี้ทั้งนั้น”นิ้วเรียวเกลี่ยแก้มใสเบาๆอย่างอ่อนโยน
“ครับ พี่อย่าทิ้งผมนะ”
“ครับ พี่รักเรานะ”
ทั้งสองคนยังใช้ชีวิตคู่รักกันอย่างปกติไม่ว่าใครจะพูดยังไงครอบครัวของท้้งสองฝ่ายเองก็รับรู้ซองกยูเองก็ยังคงเทคแคร์มยองซูอย่างดีแบบที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน
“ไง มาหาไอ้ซองกยูหรอเรา”เพื่อนๆของซองกยูทักขึ้นเมื่อเห็นคนรักของคนตาตี่เดินมาหาถึงห้องแลปที่นักศึกษาปี 4 กำลังยื่นใบฝึกงานส่งให้อาจารย์กันอยู่
“นั้นไงมันมาล่ะ อ้าวเชี่ย”ซองยอลเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนเดินออกมาแต่แล้วต้องสบถออกมาเมื่อแขนของเพื่อนที่ถูกควงด้วยแขนเรียวของหญิงสาวเพื่อนร่วมห้อง
“แค่เพื่อนในห้องเราอย่าคิดมากนะ”โฮวอนว่าแล้วส่งยิ้มแหยะๆให้มยองซู
“มึงน้องมารอมึงเนี่ย”ดูจุนพูดขึ้นมาพรางเดินเข้าไปโอบไหล่มยองซูเพื่อให้เพื่อนแสดงท่าทีหึงหวง ให้มยองซูตายใจ
“เอาแขนมึงออก”ซองกยูว่าก่อนจะกระชากแขนให้หลุดจากมือหญิงสาวแล้วเดินเข้าไปผลักดูจุนให้ออกห่างมยองซู
“แฟนกยูหรอ”หญิงสาวถาม
“อือ”ซองกยูตอบเสียงเรียบแต่สายตาก็ส่งไปให้หญิงสาวอย่างรู้กัน
“งั้นเรากลับก่อนนะ”
“ไปไหนต่อ มึงอะ”โฮวอนถามแล้วมองมยองซูอย่างเห็นใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เขาคิดว่าซองกยูจะเลิกทำตัวแบบนี้หลังจากที่คบกับมยองซูได้ตั้งสามเดือน
“เราจะไปไหนไหมครับ”ซองกยูไม่ตอบเพื่อนแต่หันไปถามร่างบาง
“ไปซื้อของเข้าห้องหน่อยน่ะครับ”มยองซูตอบแล้มก้มหน้าหลบสายตาพวกพี่ๆทำไมเพื่อนพี่กยูต้องพากันมองเขาด้วยสายตาแบบนั้นด้วย
“เดี๋ยวพี่พาไป”ซองกยูว่าแล้วจูงมือมยองซูออกจากตรงนั้นทันที เพื่อนๆกำลังทำให้เขาอึดอัดด้วยการกดดันกันด้วยสายตาที่ส่งมาให้มยองซูว่าสงสารอีกฝ่ายแค่ไหนกับการกระทำของเขาแต่ตลอดเวลาเขาก็ทำหน้าที่แฟนที่ดีตลอดนะ
“กลับไปได้แล้วครับ”มยองซูเอ่ยไล่อีกคนที่หน้ามึนนั่งอยู่ในห้องเขาทั้งๆที่เขาไล่กลับตั้งนานแล้ว
“จะนอนนี้”ซองกยูว่าแล้วเดินเข้าไปกอดมยองซูที่ยืนกอดอกทำหน้ายักษ์อยู่แล้วกดจมูกลงไปที่แก้มเนียนใส
ฟอดดด
“พี่กยู”
“ให้พี่นอนที่นี้นะ”ซองกยูทำตาปริบๆอย่างอ้อนวอน
“แต่พรุ่งนี้ผมมีเรียนเช้า ถ้าตื่นไม่ไหว.. “
“พี่ยังไม่ได้จะทำไรเราเลย คิดเองเออเองลามกนะเราเนี่ย”นิ้วเรียวจิ้มที่ปลายจมูกอีกคนเบาๆอย่างหยอกล้อ
“ก็พี่ชอบเจ้าเลห์ตลอดเลยนี่นา”มยองซูว่าแล้วเอื้อมมือไปดึงแก้มอีกฝ่ายทั้งสองข้าง
“เจ็บนะ เดี๋ยวจะโดน”ซองกยูขู่
“คร้าบบ”
“ไปอาบน้ำกันเถอะ”พูดจบก็อุ้มอีกคนท่าเจ้าสาวแล้วพาเข้าไปในห้องน้ำทันที แค่มีมยองซูให้กอดเขาก็ไม่สนใจอะไรแล้ว
“พี่กยู พี่ไปไหนมา”เสียงโวยวายของร่างบางดังขึ้นเมื่อเขามาหาซองกยูตั้งแต่เช้ามืดแล้วไม่เจออีกคนอยู่ที่คอนโด คนเราจะรีบออกไปไหนตั้งแต่เช้าขนาดนี้เลยหรอหรือว่าไม่ได้กลับมาที่นี้ตั้งแค่เมื่อคืนแล้วกันแน่
“เสียงดังน่ามยองซูพี่กลับมาเหนื่อยๆ”ซองกยูว่าแล้วพับแขนเสื้อนักศึกษาขึ้นก่อนจะเดินไปล้มตัวลงนอนบนโซฟา
“นี้พี่ไม่ได้กลับมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วใช่ไหมถึงยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า”มยองซูยังไม่หยุดแผดเสียงร่างบางเดินเข้าไปหาซองกยูก่อนจะดึงแขนอีกคนให้ลุกขึ้นมานั่ง
“ใช่ พี่ไปกินเหล้ากับพวกโฮย่ามา”ซองกยูว่าแล้วจับข้อมือร่างบางที่กำลังกระหน่ำทุบกำปั้นลงบนอกเขาเอาไว้
“ไม่จริง พี่โกหก”ร่างบางว่าพรางน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างเสียใจ เมื่อคืนซองจงไปเจอซองกยูควงผู้หญิงไปกินข้าวมาและที่ทำให้เขาเชื่อทั้งๆที่เขาไม่เคยเชื่อเพื่อนเลยก็คือรูปที่ซองกยูโอบเอวผู้หญิงคนนั้น
“ถ้างอแงขนาดนี้ก็กลับไปเถอะพี่ง่วงจะนอน”ซองกยูว่าก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนแล้วปิดประตูเสียงดัง
“ฮึก คนใจร้าย”มยองซูยังคงร้องไห้อยู่บนโซฟาในห้องรับแขก ซองกยูเป็นแบบนี้ตั้งแต่เขายอมเป็นของอีกฝ่าย ซองกยูคงเบื่อของเก่าๆอย่างเขาแล้วจริงๆ
“หึ ยังอยู่อีกเหรอ”ซองกยูออกมาจากห้องอีกทีตอนเที่ยง ความจริงเขาไม่ได้เข้าไปนอนหรอก หลังจากที่เดินเข้าไปในห้องก็มีสายเข้าจากคนที่เขาเพิ่งไปจีบมาโทรเข้ามาเขาเลยต้องคุยกับอีกฝ่ายจนถึงตอนนี้ ไม่คิดว่ามยองซูจะยังอยู่ในห้องนี้ด้วยซ้ำ
“นายทำให้หัวใจฉันเต้นแรงทุกทีเลยนะเด็กน้อย แต่ก็นะก็แค่เด็กคนนึงที่น่าเอ็นดู อีกไม่นานเราต้องจบกันแล้วล่ะถ้านายยังงี่เง่าแบบนี้”ซองกยูว่ามือหนาก็ปัดปรอยผมบนหน้าผากมนออกให้อย่างเบามือ ก่อนจะอุ้มอีกคนเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนและพาเข้าไปในห้อง
“ขี้เซานัก ลักหลับแม่งเลยดีกว่า”พอวางอีกคนลงบนเตียงซองกยูก็จัดการทำตามใจของตัวเองโดยคนที่นอนหลับลึกอย่างมยองซูไม่ได้รู้สึกตัวเลยสักนิด เมื่อคืนเขาก็เพิ่งไปปลดปล่อยมานะแต่ไม่รู้ทำไมเวลาเห็นมยองซูมันอดใจไม่ไหวทุกที ถ้าไม่ติดว่าเมื่อเช้าอีกคนงอแงเขาจัดไปตั้งแต่เช้าแล้ว
มยองซูกำโทรศัพท์แน่นหลังจากที่ได้รับข้อความจากคนที่ไม่รู้จัก ร่างบางสั่นไปทั้งตัวด้วยความโกรธ โมโหและเสียใจ ไม่คิดว่าอีกคนจะทำกันได้ถึงขนาดนี้
“เขามีคนอื่นจริงๆ”ร่างบางซบหน้าลงบนไหล่อูฮยอนที่วันนี้อาสามานอนด้วยเพราะดูเหมือนมยองซูจะอาการไม่ค่อยดีเท่าไร ทั้งเรื่องเมื่อหลายวันก่อนและข้อความที่ได้รับทำให้มยองซูที่อ่อนต่อโลกต้องมาป่วยอย่างช่วยไม่ได้ อาการทางกายยังพอรักษาได้แต่ทางใจนี้สิ เขากลัวเพื่อนจะตรอมใจตายเหลือเกิน
“เลิกเถอะนะ”อูฮยอรเอ่ยอย่างสงสารพาางยกมือลูบหัวร่างบางอย่างปลอบใจ เพื่อนที่อยู่ข้างๆมยองซูตลอดมาอย่างเขากับซองจงมีเหรอจะไม่ปวดใจที่เพื่อนมาเป็นแบบนี้
“นายต้องให้พวกฉันกราบขอร้องนายไหมถึงจะยอมเลิกกับเขา”อูฮยอนพูดอย่างอ้อนวอน ความสงสารมันเกิดเป็นความเจ็บปวดเมื่อเห็นเพื่อนมาเป็นแบบนี้ มยองซูอ่อนแอเกินไปที่จะไปต่อกรกับเสือร้ายอย่างซองกยูได้
“ไม่ต้องหรอก ฉันขอเวลาสักพัก”
ติ้ด ติ้ด
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้อูฮยอนต้องหันไปมองแล้วถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นว่าใครโทรมา มยองซูผละออกจากเขืก้อนจะเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆแล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับ
“ครับ”
“((ทำอะไรอยู่))”เสียงปลายสายดังขึ้นเรียบๆ
“ไม่ได้ทำอะไรครับ”
“((อยู่ไหน)) “
“ห้องครับ”
“((เสียงแปลกๆนะเป็นอะไรรึเปล่า))”ถามเหมือนเป็นห่วงแต่จริงๆก็แค่ถามไถ่ทั่วไป
“ป่าวครับ เพิ่งตื่นน่ะ”
“((ไม่เป็นไรก็ดีล่ะ มยองซู)) “
“ครับ”มือบางเอื้อมไปกุมมือเพื่อนสนิทเบาๆอย่างหาที่พึ่ง เขากลัวซองกยูจะพูดคำนั้น
“((เลิกกันเถอะ)) “คำพูดแสนเลือดเย็นถูกส่งออกมาจากปลายสายจริงๆ
“ไม่ ผมไม่เลิก ฮึก”มยองซูร้องไห้อย่างนักเมื่อคำพูดนั้นจบลง
“((พี่ไม่อยากให้เราต้องมาทนเห็นพี่เป็นแบบนี้ พี่หยุดตัวเองไม่ได้จริงๆ))”
“ผมทนได้ ไม่เลิก”
“มยองซูใจเย็นๆ”อูฮยอนลูบไหลเพื่อนที่กำลังสั่นเทาอย่างนักอย่างปลอบโยน
“((งั้นทนได้ก็ทนไปนะ ติ้ด))”พอพูดจบก็ตัดสายไปทันที
“อูฮยอน ฮึก”มยองซูโผล่เขากอดเพื่อนทันที ร่างบางร้องไห้อย่างนักโดยมีอูฮยอนคอยกิดปลอบก่อนจะหลับไปด้วยความอ่อนเพลียในที่สุด
“ฉันว่าเราอยู่เฉยไม่ได้แล้วแหละซองจง”อูฮยอนบอกซองจง ดวงตามคมมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาเรียบๆ
“อืม ฉันก็ทนไม่ได้แล้วอะ เพื่อนเราทำกรรมไรว่ะ”ซองจงว่าแล้วคนกาแฟในแก้มอย่างคิดไม่ตก
“แม่งเลวชิพหาย ฉันคิดสภาพแม่งแต่งงานมีลูกไม่ออกเลยคนแบบนี้”
“โครตเห็นแก่ตัว”
“อ้าวน้องจง ไอ้นัม”ทั้งสองคนหันไปตามเสียงทักก็พบกับคนคิ้วเข้มหน้าหมีกำลังยื่นยิ้มให้
“ฉันไม่อยากเสวนากับคนพวกนี้เลย ไปกันเถอะ”ซองจงว่าแล้วคว้ากระเป๋าลุกขึ้นยื่นเพื่อจะออกไปจากร้าน
“เดี๋ยวสิ”โฮวอนคว้าแขนซองจงไว้
“มีอะไร”อูฮยอนว่าแล้วเดินมาคั้นกลางทั้งสองคน ก่อนหน้านี้เขารู้ดีว่าทั้งสองคนกำลังคุยๆกันอยู่ แต่พอเห็นสภาพมยองซูแล้วเขาไม่อยากให้ซองจงก็ต้องเป็นแบบนั้นแต่ดีที่ซองจงใจแข็งกว่ามยองซูหน่อย
“พี่ขอคุยกับพวกเราหน่อย”
“เรื่อง?”
“ไอ้ซองกยูกับน้องมยองซู”โฮวอนมองหน้ารุ่นน้องทั้งสองด้วยความลำบากใจ เขาเองเป็นพี่ชายข้างบ้านของอูฮยอนและเขาก็ยังชอบซองจงด้วยเขาไม่อยากตัดความสัมพันธ์เพราะไอ้เพื่อนตัวดีเลย
“ไมเพื่อนแกเลวงี้ว่ะ”อูฮยอนว่า
“มันเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว กับมยองซูพี่ไม่คิดว่าจะคบได้นานขนาดนี้ด้วยซ้ำ”
“เห็นแก่ตัวมากเลยนะ เอาแต่ความสนุกของตัวเอง”ซองจงเอ่ยขึ้นแล้วส่ายหน้าไปมา
“ที่มันทำกับคนอื่นพี่ก็ไม่ได้อะไรหรอกแต่พี่สงสารมยองซูอะ บอกให้น้องเขาปล่อยมันไปเถอะ ให้มันสำนึกเองมันคบนานขนาดนี้มันต้องรักบ้างแหละ”โฮวอนบอกความึิดตัวเองให้ทั้งสองคนฟัง
“แกคิดว่าเขาจะแคร์แล้วมาง้อเพื่อนฉันหลังจากที่รู้ตัวว่ารักเหมือนในละครน่ะหรอ เหอะ”อูฮยอนแค้นยิ้มอย่างไม่เห็นด้วยกับโฮวอน เขาไม่คิดว่าผู้ชายคนนั้นมีหัวใจด้วยซ้ำ
“แต่พี่ว่ามันก็ต้องรู้สึกไรบ้างแหละ”
“ไอ้ที่ให้เลิกกันผมเห็นด้วยนะแต่ให้กลับมารักกันนี้ไม่โอเคอะ ต่อให้เขาเปลี่ยนตัวเองได้แต่เขาก็ทำร้ายเพื่อนผมมาก”ซองจงพูดขึ้รด้วยความเจ็บใจ
“พี่ว่ามันไม่เลวขนาดนั้นหรอก”
“พี่เพื่อนกันหนิ พี่ก็พูดได้ ผมไม่ยอมให้เพื่อนเจ็บมากกว่านี้แล้ว”พอพูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกจากร้านทันทีโดยไม่สนใจทั้งสองคนที่มองตามมา
มยองซูมองภาพตรงหน้าด้วยความน้อยใจเมื่อที่ตรงนั้นข้างๆซองกยูเป็นของคนอื่น วันนี้พอเลิกเรียนเขาก็ไปหาซองกยูแบบที่เคยทำแต่ก็มีการทะเลาะกันอย่างนักเมื่อเขาเห็นอีกคนยืนจูบอยู่กับผู้หญิงคนอื่น ซองกยูจึงตัดปัญหาด้วยการลากเขาออกมาแต่ก็ไม่ลืมจูงมือคนนั้นมาด้วย
“ซองกยูเดี๋ยวเย็นนี้เราไปกินข้าวกันนะ”หญิงสาวที่นั่งเบาะข้างๆซองกยูออดอ้อน โดสมีสายตาของมยองซูที่นั่งอยูเบาะหลังมองทั้งสองคนด้วยความเจ็บปวด
“ครับ”ซองกยูตอบรับแล้วเอื้อมมือไปขยี้ผมของอีกฝ่ายเบาๆ
“ถึงคอนโดเราแล้ว ลงไปสิ”ซองกยูบอกมยองซูโดยไม่หันมามองอีกฝ่ายแม้แต่น้อยทำเพียงแค่มองผ่านกระจกส่องหลักซึ่งมยองซูก็สบตาคมนั้นผ่านกระจกเช่นกัน ครั้งสุดท้ายแล้วที่เขาจะได้มองดวงตาคู่นี้ เขายอมแล้วจริงๆ
ร่างบางก้าวลงจากรถโดยไม่พูดอะไรก่อนที่รถคันหรูจะเคลื่อนออกไป มยองซูเงยหน้ามองท้องฟ้าเพื่อกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลก่อนจะสะบัดหัวสองสามทีเรียกสติของตัวเองแล้วตัดสินใจเดินขึ้นห้อง ดวงตากลมมองรอบๆห้องด้วยหัวใจที่หน่วงชา ก่อนจะวางกระเป๋าลงแล้วเดินไปหยิบสิ่งของของซองกยูที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ในห้องหรือแม้แต่สิ่งของที่อีกฝ่ายเคยให้ใส่ถุงดำ ค้นทุกซอกมุมไม่ให้มันเหลือก่อนจะตัดสินใจเดินลงไปทิ้ง
“จบสักที”มยองซูสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วเดินกลับห้อง เขาเคยคิดจะเก็บของพวกนี้ไว้แม้จะต้องเลิกกันจริงๆอยากเก็บให้เป็นความทรงจำแต่ในเวลานี้เขาอยากลืมอยากจะทิ้งทุกอย่าง ไม่อยากเหลือความรู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนั้นแล้ว
1 เดือนต่อมา
“ยินดีด้วยนะครับคุณตั้งครรถ์ได้ 7สัปดาห์แล้ว”เสียงนายแพทย์วัยกลางคนที่พูดกับคนไข้ด้วยความยินดีต่างจากร่างบางที่นั่งฝั่งตรงข้ามรู้สึกเหมือนร่างกายถูกสูบวิญญาณ
“เป็นไปไม่ได้หรอกครับ”มยองซูเอ่ยบอกคุณหมอ ซึ่งอีกฝ่ายทำเพียงแค่ยิ้มๆอย่างเอ็นดู
“เป็นไปได้ครับเพราะคุณมีฮอร์โมนเพศหญิง 45% ในร่างกายเลย เดี๋ยวหมอจะอธิบายให้หังนะครับว่าทำไม”แล้วคุณหมอก็บอกรายละเอียดที่ทำให้มยองซูตั้งครรถ์ ร่างบางนั่งฟังทั้งน้ำตา
“เข้าใจแล้วนะครับ ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะ คราวหลังก็พาคุณพ่อมาด้วยนะครับ หมอจะได้บอกวิธีเตรียมตัวให้ทั้งสองคน”
“ค ครับ”ร่างบางตอบเสียงสั่นก่อนจะลุกขึ้นยืนเพื่อเดินออกไปจากห้องแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อคุณหมอพูดขึ้นมา
“หมอไม่รู้หรอกนะครับว่าคุณเจอปัญหาอะไรมาถึงได้ทำหน้าเศร้าแบบนี้แต่ต่อไปนี้ช่วยคิดด้วยนะว่าคุณไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว”
“ลูก”มยองซูลูบหน้าท้องของตัวเองเบาๆหลังจากที่กลับมาที่คอนโด ก่อนจะตัดสินใจไปหาหมอ เขาทั้งเวียนหัวทั้งอาเจียนกินอะไรก็ไม่ค่อยลง แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้น ทั้งๆที่แม่เคยเตื่อนแล้ว
“ถ้ามีอะไรกันก็ป้องกันด้วยนะลูก กินยาคุมไว้ก็ดี”แม่บอกตอนที่เขายังคบกับซองกยูอยู่
“ทำไมครับ”
“เพราะร่างกายลูกไม่ได้ปกติเหมือนผู้ชายทั่วไป”
ผู้เป็นแม่อุตส่าห์เตือนแต่เป็นเขาเองที่ไม่เชื่อฟัง แม่คือคนที่คลอดเขามาแม่ต้องรู้อยู่แล้วว่าเขามีความผิดปกติในร่างกายของเขา เขาต้องโทรบอกแม่ตอนนี้แม่ต้องช่วยอธิบายให้เขาฟังได้แม้ว่าหมอจะบอกเขาแล้วแต่เขาก็อยากรู้จากปากแม่
“แม่ครับ”
“((ว่าไงลูก))”
“ผมคิดถึงแม่”มยองซูพูดออกมาเสียงสั่นๆ
“((งอแงอะไรเรา ปิดเทอมจะกลับบ้านไหม)) “
“แม่ครับ..”
“((แล้วนี่ลูกอยู่กับใครซองกยูรึเปล่าช่วงนี้ไม่เห็นพูดถึงพี่เขาให้แม่ฟังเลย))”คำถามของผู้เป็นแม่ทำเอามยองซูสะอึกไปไม่ถูก
“ผมเลิกกับเขาแล้วครับ”
“((จริงเหรอ ทำไมเลิกล่ะ มีปัญหาอะไรกัน))”
“อย่างนี้ครับ… “มยองซูเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ผู้เป็นแม่ฟังทั้งเสียงสะอื้นเขาคิดว่าตลอดเวลาหนึ่งเดือนเขาเข้มแข็งมากพอ ใช่ เขาดีขึ้น เขามีเพื่อนที่คอยอยู่ข้างๆมีแม่ที่รับฟังและให้ความรักแต่พอมาวันนี้ความเข้มแข็งของเขาก็หายไปเขายังรับสิ่งที่มันเกิดขึ้นไม่ได้
“((ดีแล้วล่ะที่เลิก ไม่ต้องร้องแล้ว))”ผู้เป็นแม่ว่าถึงแม้จะเจ็บใจไม่น้อยที่อีกฝ่ายทำกับลูกตนได้ถึงเพียงนี้แต่จะทำอะไรได้ในเมื่อลูกชายตนยอมโง่เอง
“แม่ครับ ผมมีไรจะถาม”มยองซูสูดหายใจเขาลึกๆก่อนจะพูดมันออกไป
“((มีไรหรอ))”
“ผมท้องได้ด้วยหรอครับ แม่ช่วยบอกผมทีว่าทำไม”
“((ลูกรู้แล้วหรอ)) “ผู้เป็นแม่ถามด้วยความตกใจ
“ครับ ทำไมแม่ไม่บอกผม”มยองซูถามด้วยความน้อยใจ
“((แม่กลัวลูกรับตัวเองไม่ได้ แม่ก็ไม่รู้ว่าทำไมแต่ลูกมีฮอร์โมนเพศหญิงเกือบครึ่งตอนแม่เห็นหน้าลูกวันแรกแม่คิดว่าได้ลูกสาวด้วยซ้ำ))”
“ผมเป็นเด็กสองเพศหรอ”
“((ไม่ใช่จ้ะ ลูกเป็นผู้ชาย แค่เป็นผู้ชายที่ท้องได้ แล้วนี้ลูกรู้ได้ยังไง))”
“ผมมีอาการแปลกๆมาหลายวันเลยไปหาหมอมา”
“((อ่อ อย่างนี้นี่เอง))”
“หมอบอกว่า… ผมท้อง”
หลังจากที่วางสายกับแม่มยองซูก็ต้องมานั่งเคลียดคิดไม่ตกว่าจะเอายังไงต่อไป แม่โมโหมากแต่ท่านก็ยอมรับเพราะท่านบอกว่าผิดเองที่ไม่บอกความจริงกับมยองซู แม่บอกให้เขาบอกเรื่องนี้กับซองกยูต้องให้อีกฝ่ายรับผิดชอบ ลูกของเขาต้องมีพ่อ เขาจำเป็นต้องบอกเรื่องนี้กับซองกยู
ตู้ด ตู้ด
“เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ค่ะ”
ไม่ว่าจะโทรไปกี่ครั้งก็ไม่สามารถติดต่ออีกฝ่ายได้ มยองซูจึงโทรบอกอูฮยอนให้พาไปหาซองกยูที่คอนโด
“แกจะมาหาเขาทำไมว่ะ”อูฮยอนถามด้วยความไม่เข้าใจ แม้จะไม่พอใจที่มยองซูที่มยองซูมาหาหมอนั้นแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
“เดี๋ยวฉันค่อยเล่านะ”
“แกขึ้นไปคนเดียวนะฉันไม่อยากเห็นหน้าหมอนั้น มีไรก็รีบโทรมาเลยนะ”อูฮยอนว่าแล้วทำหน้าเซ็งจริงๆเขาก็เป็นห่วงเพื่อนนะแต่กลัวเจอหน้าไอ้พี่ซองกยูเขาจะอดปล่อยหมัดใส่ไม่ได้
“อืม แกรออยู่นี้แหละ”มยองซูว่าก่อนจะก้าวเข้าไปในลิฟทฺกดไปชั้นที่คุ้นเคย จนพาร่างกายตัวเองมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของอดีตคนเคยรัก
กริ้ง กริ้ง
กริ้ง กริ้ง กริ่ง กริ่ง
ร่างบางกดกิ่งระรัวเมื่อกดไปแล้วไม่มีใครออกมาเปิดประตูให้
“ใครตายว่ะ ถึงกดขนาดนี้”เสียงเข้มที่คั้นเคยดังขึ้นพร้อมกับประตูที่ถูกกระชากออกอย่างแรง พอเห็นว่าเป็นใครที่มากดกิ่งหน้าห้องร่างกายก็หยุดชะงักขามันชาเช่นเดียวกับหัวใจที่หยุดเจ็บมันรู้สึกหน่วงไปหมดจึงทำได้จ้องใบหน้าน่ารักนิ่งๆ
“ขอโทษที่มารบกวนครับ”มยองซูเอ่ยบอกก่อนจะหันหน้าไปมองทางอื่นเพราะดวงตาคมกำลังสะกดร่างกายเขาไว้ ซองกยูที่ออกมาเปิดประตูโดยที่ร่างกายมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันช่วงล่างไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายทำอะไรมา
“มีอะไร”กว่าจะหาเสียงเจอทั้งสองก็ยืนอยู่ที่หน้าห้องเป็นเวลาหลายนาที
“ผมมีเรื่องสำคัญจะบอก”
“เข้ามาก่อนสิ”ซองกยูว่าแต่ร่างบางก็ยังหยุดนิ่งอยู่หน้าห้องก่อนจะมองผ่านไหล่อีกคนไปก็เห็นหญิงสาวที่มีสภาพไม่ต่างจากซองกยูนั่งอยู่บนโซฟาและกำลังมองมา
“ไม่เป็นไรผมมาคุยแปปเดียว แต่มันเป็นเรื่องที่พี่ต้องรับรู้”
“มันสำคัญกับพี่มากขนาดนั้นเลยหรอ”ร่างสูงทำหน้าตาขำๆเขาไม่คิดว่าเด็กนี้กับเขาต้องมีอะไรเกี่ยวข้องหรือพูดจากันอีกแล้วนะ
“ผมท้อง”ดวงตาเรียวเล็กเบิกกว้างเมื่อร่างบางพูดประโยคไม่หน้าเชื่อออกมา ตกใจนิดหน่อยแต่ก็อดขำไม่ได้
“พูดเรื่องอะไร ประสาทเหรอ”
“ผมรู้ว่าพี่ต้องไม่เชื่อ อะดูซะ”มยองซูยื่นซองบางอย่างให้ซองกยูข้าฃในมีเอกสารและใบรับรองแพทย์ ซองกยูรับมาอย่างงงๆก่อนจะค่อยๆหยิบมันออกมา
“นี่มัน เรื่องจริงเหรอ”
“อะไรค่ะซองกยู ซองทวงหนี้หรอ”หญิงสาวที่ทนรอไม่ไหวลุกขึ้นมาก่อนจะแย่งซองไปจากมือซองกยูแล้วโยนใส่มยองซู
“เอากลับไป รบกวนชะมัด”หญิงสาวว่าก่อนจะดันซองกยูให้เข้าไปในห้องก่อนแล้วปิดประตูใส่หน้ามยองซู ร่างบางค่อยๆก้มลงไปเก็บพรางพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ เขาได้แต่หวังว่าซองกยูจะติดต่อกลับมาแล้วรับผิดชอบเขากับลูกในท้อง
อูฮยอนมองร่างบางของเพื่อนที่เดินเข้ามาหาเหมือนคนไร้วิญญาณก่อนจะรีบพุ่งเข้าไปหา
“เป็นไงบ้าง หมอนั้นทำอะไรแกรึป่าว”อูฮยอนดึงเพื่อนเข้ามาหาแล้วมองสำรวจร่างกายบาง
“เขาไม่ได้ทำอะไรหรอก”
“แล้วนี่ซองอะไรฉันเห็นแกถือมาตั้งแต่อยู่คอนโดแกล่ะ”อูฮยอนถามอย่างสงสัย
“เดี๋ยวเอาให้ดูกลับกันเถอะ”มยองซูว่าแล้วจูงมือเพื่อนให้ไปที่รถ ถึงแม้อูฮยอนจะไม่เข้าใจแต่ก็ยอมขับรถออกจากคอนโดคนรวยแต่คนอยู่จิตใจทรามนี้เพื่อพามยองซูกลับห้อง
“นี้แก…. ท้องงั้นหรอ”พอกลับมาถึงคอนโดมยองซูก็ยื่อซองเอกสารให้อูฮยอนดู
“อืม”
“เป็นไปได้ไง”อูฮยอนถามอย่างไม่เชื่อ
“แม่บอกฉันว่า… “แล้วก็เล่าเรื่องให้อูฮยอนฟัง
“แกหน้าจะป้องกันตั้งแต่แรก”
“ก็ใครมันจะไปรู้”
“แล้วหมอน้้นเอาโรคมาติดแกรึป่าวก็ไม่รู้ ถ้าเป็นโรคจริงนะซวยทั้งแม่ทั้งลูกแน่”อูฮยอนว่าแล้วกำหมัดแน่นอย่างโมโห ขนาดรู้ว่ามยองซูท้องหมอนั้นก็ยังนิ่งเฉยอยู่อีก ไม่คิดจะรับผิดชอบลูกตัวเองบ้างรึไง
“คิดมากน่า อูฮยอน”มยองซูลูบแขนเพื่อนเบาๆให้อีกฝ่ายใจเย็น
“แล้วจะเอาไง”
“ก็คงลาออกจากมหาลัยอะ ฉันไม่มีหน้าอุ้มท้องไปเรียนหรอก”มยองซูว่าแล้วลูบท้องตัวเองเบาๆเขาเองก็เสียใจ การเรียนจบคือความฝันอันสูงสุดของทุกๆคนแต่จะให้ทำยังไงเมื่อมันพลาดไปแล้ว เอาไว้คลอดลูกเสร็จค่อยคิดว่าจะเอาไงก็ได้
“มยองซู”อูฮยอนเรียกเพื่อนอย่างอ่อนใจก่อนจะดึงอีกฝ่ายเข้ามากอด
ติ้ด ติ้ด
‘ข้อความ จากซองกยู’
“เอาเด็กออกซะ”
อูฮยอนเอื้อมมือไปดึงโทรศัพท์ออกจากมืออย่างถือวิสาสะเมื่อเห็นร่างบางมองโทรศัพท์ด้วยสายตาอึ้งๆ
“สารเลว”ว่าจบก็รีบเดินออกไปจากห้องมยองซูโดยไม่ฟ้งเสียงเรียกของร่างบาง
“จะไปไหนอูฮยอน อูฮยอน”
อูฮยอนขับรถมาจอดหน้าคอนโดซองกยํที่เขาเพิ่งมาเมื่อไม่ก่่ช้่วโมงที่แล้ว เขาไม่คิดจะมาเหยียบที่นี้ด้วยซ้ำแต่เขาขอระบายความเจ็บแค้นในใจหน่อยเถอะ ระหว่างทางที่เดินไปห้องซองกยูเจาก็เห็นผู้หญิงเดินสวนทางมา หึ คงจะเป็นคู่ควงสินะ
กริ่ง กริ่ง
“อะไรอีกว่ะ”น้ำเสียงหงุดหงิดดังขึ้นพร้อมกับที่ประตูถูกกระชากออกอย่างแรง ไม่รอให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัวอูฮยอนพุ่งเข้าไปหาซองกยูทันทีก่อนจะรัวหมัดใส่ใบหน้าอีกฝ่ายไม่ยั้งมือ
“เฮ้ย ไรว่ะเนี่ย”ซองยอลที่กำลังจะเดินผ่านห้องซองกยูไปที่ห้องตัวเองตะโกนขึ้นเมื่อเห็นมีการชกต่อยเกิดขึ้นภายในห้องของเพื่อน
“อะไรของแก ห้ะ”ซองกยูผลักอูฮยอนออกก่อนจะพุ่งเข้าไปหาอีกฝ่ายแล้วรัวหมัดใส่ใบหน้ารุ่นน้องไม่ยั้ง
“เฮ้ย แยกๆ”ซองยอลดึงซองกยูออกจากรุ่นน้อง จนซองกยูเสียหลังอูฮยอนจึงถีบเข้าที่กลางอกแล้วตามไปต่แยอีกฝ่าย
“อูฮยอน ไอ้กยู หยุดเว๊ย”ซองยอลตะโกนเสียฃดังก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเพื่อนๆให้มาช่วยกันแยกทั้งสองคน เขาคนเดียวไม่ไหวแน่
“เฮ้ย เกิดไรขึ้น”ดูจุนถามอย่างตกใจหลังจากที่ซองยอลวางสายไปเขาก็รีบวิ่งมาทันที
“ช่วยแยกที”
“ไอ้เหี้ย ไมเป็นงี้ว่ะ”ดูจุนสบถก่อนจะจับอูฮยอนออกห่างจากซองกยูซึ่งซองยอลก็ลากซองกยูไปอีกฝั่งเช่นกัน ใบหน้าของท้้งสองเต็มไปด้วยเลือดจนดูไม่ได้
“ถามมันดิ ว่าเป็นบ้าอะไรมาบุกห้องกูแล้วต่อยกูอีก”ซองกยูตะคอกเสียงดังพรางชี้หน้าอูฮยอน
“มึงนั้นแหละหน้าตัวเมีย เป็นลูกผู้ชายรึป่าวว่ะ”อูฮยอนเตรียมจะพุ่งเข้าไปหาซองกยูอีกครั้งแต่ดูจุนก็กอดคอไว้แน่น
“ทำไมอูฮยอน ไอ้บ้านี้มันก่อเรื่องอะไร”ซองยอลถามรุ่นน้อง
“หึ มันทำเพื่อนผมท้องแล้วพี่รู้ป่ะว่ามันเ--หี้ยแค่ไหน มันมีหน้าส่งข้อความให้มยองซูเอาลูกออก สมองมันนอกจากคิดเรื่องเลวๆแล้วก็คงจะคิดอย่างอื่นไม่ได้”อูฮยอนใช้แรงเฮือกสุดท้ายสะบัดตัวออกจากดูจุนแล้วเดินเข้าไปหาซองกยูก่อนจะเงื้อมือขึ้นอีกครั้ง
“เพี้ย”
เสียงฝ่ามือกระทบกับแก้มสากดังขึ้นทำให้ทุกคนชะงักเมื่อร่างของอูฮยอนถูกพลักออกห่างจากซองกยูแล้วแทนที่ด้วยร่างบางที่มากับโฮวอน
“มยองซูท้องจริงๆหรออูฮยอน”ซองจงที่เพิ่งฝาดฝ่ามือลงไปบนแก้มซองกยูหันมาถามอูฮยอนด้วยความแน่ใจ อูฮยอนจึงพยักหน้ารับ
“พี่ทำเพื่อนผมเสียใจไม่รู้กี่ครั้ง ผมไม่เคยว่าเพราะพูดไปคนอย่างพี่ก็ไม่เข้าใจแต่วันนี้ผมเพิ่งรู้ว่าพี่ไร้ความรับผิดชอบถึงขั้นจะฆ่าลูกตัวเอง พี่มันหน้าตัวเมียอย่างที่อูฮยอนว่าแล้วพี่ก็เห็นแก่ตัวเกินมนุษย์บนโลกใบนี้”ซองจงพูดกับซองกยูด้วยเสียงนิ่งๆแต่สายตาบ่งบอกถึงความโกรธและเกลียดชัง จนทุกคนที่ยื่นอยู่ตรงนั้นรู้สึกร้อนๆหนาวๆไปด้วย
“แกกล้าด่าฉันหรอไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม”ซองกยูตะคอกพรางจะเดินเข้ามาหาซองจงแต่โฮวอนก็เข้ามาแทรกกลางไว้และมองเพื่อนด้วยสายตานิ่งๆ
“มากกว่านี้ผมก็ทำถ้ามันทำให้เพื่ิอนผมหลุดพ้นจากวงเวียนชีวิตเลวๆของพี่”
“ที่น้องพูดมามันถูกทั้งหมดไอ้ซองกยู แกมันเกินมนุษย์ เกินเยียวยาแล้วจริงๆ”
“ก็เพื่อนมันง่ายเอง ถ้าทุกคนที่ฉันนอนด้วยท้องแบบมัน ฉันก็ต้องรับผิดชอบทุกคนน่ะสิ”
เพี้ย
“ผมไม่ได้ง่าย ไม่ใช่มั่วกับใครก็ได้แล้วมาบอกว่าเด็กในท้องคือลูกของพี่ พี่หน้าจะรู้ดีว่าเขาเป็นลูกของพี่”มยองซูที่นั่งแท็กซี่ตามอูฮยอนมาเดินเข้ามาตบซองกยูอย่างทนไม่ไหว เขาเห็นตั้งแต่แรกว่าอูฮยอนต่องซองกยูแต่เขาก็ทำแค่หลบอยู่มุมห้องข้างๆเพราะคิดว่าซองกยูสมควรโดน แต่พอมาได้ยินจากปากอีกฝ่ายแบบนี้เขาก็ทนไม่ไหว
“มยองซู”ซองกยูเรียกร่างบางตรงหน้าเสียงแผ่วพรางเอื้อมมือจะไปเช็ดน้ำตาให้แต่มยองซูก็ปัดมือเขาออกอย่างไร้เยื่อใย
“พี่ไม่รับผิดชอบผมผมไม่ว่าแต่นี้พี่บอกให้ผมฆ่าลูก พี่มีหัวใจรึป่าวคิม ซองกยู ฮึก”
“ผมพอแล้ว ผมอโหสิกรรมให้พี่ เราอย่าได้เกี่ยวข้องกันอีกเลย”พอพูดจบมยองซูก็หันหลังเดินออกมาตามด้วยเพื่อนสองคนที่รีบเดินตามมาอย่างเป็นห่วง
“แกทำเกินไปจริงๆ”เพื่อนทั้งสามคนส่ายหน้าระอาซองกยูแต่ก็ไม่ได้ทิ้งให้อีกฝ่ายอยู่คนเดียวแม้จะรู้ว่าเพื่อนตัวเองผิดแต่การปล่อยซองกยูไว้คนเดียวในเวลาแบบนี้ก็คงจะไม่ดีนัก ดูจากสภาพความเละของหน้าก็ควรจะต้องพาไปเย็บ
หลายวันต่อมา
“มยองซูมาลาออกแล้วว่ะ”โฮวอนพูดขึ้นหลังจากที่ได้รับข้อความจากซองจง ซองจงเองก็โกรธเขาจนกระทั่งให้เลือกเพื่อนกับน้องแต่เขาก็ไม่เลือดแล้วพูดกับซองจงด้วยเหตุผล
“สงสารมยองซูโครตเลย ไอ้กยูก็ไม่ยอมมาเรียน”ซองยอลว่าแล้วถอนกายใจออกมาเบาๆ
“มันคงกลัวต้องมาเจอหน้าเขาและไม่คิดว่าน้องจะลาออก เอาจริงๆมยองซูโครตใจเด็ด”ดูจุนพูดขึ้นมา
“มันก็คงต้องเป็นแบบนั้น มยองซูคงไม่ยอมเอาเด็กออกหรอกแต่จะอุ้มท้องมาเรียนก็ยังไงอยู่แล้วน้องก็ไม่ใช่ผู้หญิงด้วย”โฮย่า
“ไว้คลอดแล้วเราไปเยี่ยมน้องกัน”ซองยอล
“หลานฉันต้องน่ารักมากแน่ๆ”ดูจุนว่าพรางทำหน้าเพ้อถึงเด็กที่จะเกิดมา ทั้งซองกยูและมยองซูต่างก็หน้าตาดีด้วยกันทั้งคู่ลูกก็คงจะน่ารักไม่น้อย
“หึ หลานเหรอขนาดพ่อมันยังไม่รับว่าเป็นลูกเลย”โฮวอนแค่นหัวเราะออกมาอย่างสมเพสเพื่อนสนิทป่านนี้คงนอนจมขวดเหล้าหมดสภาพอยู่ในห้อง
“ซองกยูบอกให้ลูกเอาเด็กออกจริงๆหรอ”จีนาถามลูกชายอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ครับ ก็อย่างที่ผมเล่าให้ฟังทั้งหมด”มยองซูกำมือที่วางอยู่หน้าตักแน่น พรางก้มหน้าหลบเพื่อซ้อนแววตาเจ็บปวด
“แม่ไม่ยอมหรอก”
“แต่แม่ครับ แค่นี้เขาก็โดนอูฮยอนต่อยจนหน้าเละแล้ว”มยองซูอ้อนวอนผู้เป็นแม่เมื่อจีนาทำท่าจะไม่ยอมจริงๆ
“ครอบครัวของซองกยูต้องรู้เรื่องนี้”
“ไม่เอาครับแม่”
“ลูกต้องพาแม่ไปบ้านซองกยู เด็กต้องมีพ่อ”
“แม่ครับ”มยองซูเรียกผู้เป็นแม่อย่างอ่อนใจ
“มยองซู”จีนาพูดเสียงเข้มทำให้มยองซูหน้ามอง ก่อนที่ร่างบางจะพาแม่ของตนเดินทางไปที่บ้านของซองกยูที่อีกฝ่ายพาเขามาแค่ครั้งเดียว
“ที่นี้หรอ บ้านออกจะใหญ่โตดูเป็นผู้ดีแต่ทำไมลูกชายถึงมีสันดานแบบนี้”มีนาว่าก่อนจะก้าวลงจากรถไปกดกิ่งบ้านไม่นานก็มีสาวใช้มาเปิดบ้านให้
“มีแขกมาหรอ”หญิงสาววัยกลางคนถามสาวใช้
“ค่ะ คุณมยองซูกับคุณแม่”
“หนูมยองซูไม่เจอกันนานเลย แล้วนี้มีอะไรทำไมถึงพาแม่มาที่นี้”คุณหญิงของบ้านถามพรางเดินเข้าไปหาสองแม่ลูก
“สวัสดีค่ะฉันจีนา ฉันมีธุระต้องคุยกับคุณนิดหน่อย”จีนาโค้งสวัสดีอีกคนอย่างนอนน้อม
“งั้นไปคุยกันในห้องรับแขกดีกว่า เดี๋ยวเอาน้ำกับผลไม้มาให้แขกด้วยนะ”แม่ของซองกยูว่าก่อนจะพาแขกไปที่ห้องรับแขก
“มีอะไรงั้นหรอค่ะ ลูกชายฉันไปสร้างเรื่องให้คุณรึป่าว”
“ดูคุณจะรู้นิสัยลูกชายดีนะค่ะ”
“ค่ะ ฉันเลี้ยงลูกมาคนเดียวไม่ค่อยมีเวลาให้ ซองกยูเป็นเด็กขาดความอบอุ่น ชอบให้มีคนรักเขาเยอะๆและหัวแข็งพอสมควร”แม่ของซองกยูพูดอย่างยิ้มแย้ม
“ค่ะลูกคุณสร้างเรื่องเรื่องใหญ่ด้วย ดูนี้ค่ะ”จีนายื่นซองสีน้ำตาลให้แม่ของซองกยูดูอีกฝ่ายมองอย่างงงงวยแต่ก็ยอมหยิบขึ้นไปดู
“ตายจริง เรื่องจริงหรอค่ะ”เธอทำหน้าอย่างไม่เชื่อพรางมองมยองซูสลับกับกระดาษในมือไปมา
“ใช่ค่ะ ที่มาวันนี้ไม่ได้อยากได้เงินทองอะไรนะค่ะแค่คิดว่าเด็กต้องมีพ่อ ลูกชายคุณปัดความรับผิดชอบด้วยการบอกให้มยองซูไปเอาเด็กออกและไม่ต้องห่วงว่าเด็กในท้องจะไม่ใช่หลานของคุณนะค่ะ เพราะลูกชายฉันมีแฟนคนแรกคือซองกยูและมีแค่เขาคนเดียวมาตลอดสามเดือน”
“ฉันอาจจะเจอหนูมยองซูแค่ครั้งเดียวแต่ฉันรู้ว่าหนูมยองซูไม่ใช่คนแบบนั้น ฉันเอ็นดูเขาตั้งแต่เจอกันครั้งแรก”แม่ซองกยูว่าแล้วเอื้อมมือไปจับมือจีนามากัมไว้
“คุณไม่ต้องห่วงนะค่ะ เดี๋ยวฉันจะจัดการเจ้าซองหยูให้ฉันไม่อยากให้หลานต้องมาเป็นแบบซองกยูที่ขาดรวามรักจากพ่อ”จีนายิ้มรับคำที่อีกฝ่ายบอกแม่ของซองกยูใจดีแบงนี้เธอก็สบายใจ
“ค่ะ งั้นฉันขอตัวกลับก่อนดีกว่า”จีนาว่าแล้วลุกขึ้นยืน
“ไม่กินข้าวเย็นด้วยกันก่อนหรอค่ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”พูดจบก็จูงมือลูกชายออกจากบ้านหลังใหญ่ เธอหวังว่าซองกยูจะคิดได้และกลับใจซะตอนนี้ อีกฝ่ายไม่มีอะไรเสียหายสักนิด ไม่ได้อุ้มท้อง ไม่ต้องลำบากคลอดและไม่ต้องเสียการเรียนแต่ลูกชายเธอนี้สิเพิ่งได้ใช้ชวิตในรั่วมหาลัยไม่ถึงปีแท้ๆ
8 เดือนต่อมา
ร่างที่เคยบอบบางของมยองซูนอนนี้กลับมีหน้าท้องที่ยื่นออกมา แต่ใบหน้าน่ารักก็ยังไม่เปลี่ยนไปแถมยังดูมีน้ำมีนวลขึ้นมากกว่าเดิมซะอีก มยองซูอุ้มท้องลูกน้อยมาแปดเดือนแล้ว เขาไปหาหมอสม่ำเสมอ มบองซูใส่ชุดคุมท้องเหมือนพวกผู้หญิงแต่ก็ไม่เคยมีใครมองเขาประหลาดอาจจะเพราะว่าหน้าเขาหวานด้วยล่ะมั้ง คนเลยคิดว่าเขาเป็นคุณแม่ผมสั้น
“ไงแก จะบอกได้ยังว่าได้ลูกผู้หญิงหรือลูกผู้ชาย”ซองจงว่าขณะที่มาเยี่ยมมยองซูที่โรงพยาบาล กำหนดคลอดของเขาคืออีกสองสัปดาห์แต่คุณหมอให้มานอนเช็คอาการก่อนเพราะอาจจะมีปวดท้องคลอดขึ้นมา
“ความลับ”มยองซูว่ายิ้มๆแล้วลูบหน้าท้องกลมของตัวเองเบาๆ
“เขาไม่มาหาแกหาลูกเลยหรอ”อูฮยอนถามขึ้น
“ไม่เลย มีแต่แม่เขาที่มา”
“แล้วแม่แกไม่โกรธหรอ”ซองจงถามอย่างสงสัย
“แม่คงปลงเพราะทำยังไงเขาก็ไม่สนใจ ฉันก็ไม่ได้อยากเรียกร้องอะไรมากความจริงวันนั้นไม่ได้อยากจะพาแม่ไปบ้านเขาด้วยซ้ำ”มยองซูว่าแล้วทำหน้าเศร้า เขารู้ที่แม่ทำไปเพราะอยากให้ลูกของเขามีพ่อแต่เขาเองก็ตัดสินใจตัิงแต่เดินออกมาจากคอนโดซองกยูวันนั้รแล้วว่าลูกของเขาไม่จำเป็นต้องมีพ่อ
“แต่แกขัดแม่แกไม่ได้สินะ”ซองจงว่าขำๆแม่มยองซํถึงจะยังไม่แก่และดูหัวสมัยใหม่แต่ใครจะอยากให้ลูกตัวเองท้องไม่มีพ่ออะไรที่พอเรียกร้องสิทธ์ได้เธอเลยต้องทำ
ก๊อก ก๊อก
“แม่มาเยี่ยมจ้ะลูกสะไภ้”เสียงผู้เป็นแม่ของซองกยูดังขึ้นพร้อมกับร่างท้วมที่เดินหอมกระเช้าผลไม้เข้ามา
“สวัสดีครับ”ทั้งสามคนเอ่ยทักทายอีกฝ่าย
“หวัดดีจ้ะ เพื่อนหนูน่ารักทุกคนเลยนะ”เธอพูดขำๆติดตลกก่อนจะเดินเข้ามาข้างเตียงมยองซู ซองจงที่นั่งอยู่บนเกาอี้ข้างเตียงจึงลุกออกให้เธอนั่ง
“เป็นยังไงบ้าง ท้องโตใกล้คลอดแล้ว”
“ก็เดินลำบากนิดหน่อยครับ”
“เราตัวเล็กไง น้ำหนักมันเลยแบ่งส่วนไม่สมดุล”
“คงงั้นมั้งครับ”
“แม่ขอโทษจริงๆนะมยองซํที่แม่ทำให้เจ้าลูกชายตัวดีกลับตัวกลับใจไม่ได้ แต่หลานแม่แม่รักเขาแน่นอนจ้ะ”อีกฝ่ายยกมือลูบหัวมยองซูอย่างอ่อนโยนด้วยความเอ็นดู
“ไม่เป็นไรครับ คุณเลิกขอโทษผมเถอะครับ ไม่ใช่ความผิดของคนเลย”มยองซูว่าแล้วยิ้มให้อีกฝ่าย
“จ้ะ งั้นแม่คงต้องกลับแล้ว เดี๋ยวแม่จะมาอีกทีวันคลอดนะ”
“ครับ”
ดวงตาทั้งสามคู่มองตามหญิงวัยกลายคนจนลับสายตาก่อนที่เพื่อนทั้งสองจะพุ่งตัวเข้ามาใกล้มยองซู
“เขาดีขนาดนี้เลยหรอว่ะ”อูฮยอน
“ต่างจากลูกลิบลับ”ซองจง
“พวกแกก็”มยองซูเอ็ดเพื่อนเบาๆ
วันคลอด
“แม่อยู่ข้างๆผมนะครับ ผมปวดท้อง ฮึก”มยองซูจับมือผู้เป็นแม่ไว้เมื่อบุรุษพยาบาลกำลังเข็นเตียงของเขาเข้าไปในห้องผ่าคลอด
“จ้ะ ไม่ต้องกลัวนะ”จีนาว่าแล้วเดินไปใส่ชุดปลอดเชื้อก่อนจะมายืนข้างๆมยองซู
“คุณพ่อไม่มาใช่ไหมค่ะ”พยาบาลที่เป็นคนดูแลข้อมูลผู้ป่วยเข้ามาสอบถาม
“ค่ะ”จีนาตอบพร้อมกุมมือลูกชายเบาๆ
“เวลาคลอดลูกกำลังใจจากสามีเป็นสิ่งสำคัญนะครับ แต่ถ้าไม่มาก็ไม่เป็นไร”คุณหมอที่ต้องผ่าคลอดมยองซูเอ่ยขึ้น คุณหมอที่จะผ่าไม่ใช่คุณหมอประจำที่มยองซูคอยมาหาเพราะเขาติดเคสพิเศษและมยองซูมีอาการเจ็บท้องกระทันหัน
“บล็อคหลังแล้วนะครับ”
“พี่ซองกยู”มยองซูพึมพัมออกมาก่อนที่จะหลับไปเพราะยาสลบ จีนามองลูกชายอย่างสงสารและกดจูบลงบนหน้าผากอย่างหวงแหน
“อูแว๊ อูแว๊”มยองซูที่กำลังสลึมสลือมึนยานอนหลับอยู่ค่อยๆเผยยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกน้อย
“นี้นะค่ะคุณแม่ ลูกชายนะค่ะ”พยาบาลสาวเข็นเตียงเด็กมาไว้ข้างๆเตียงของมยองซูก่อนจะอุ้มเด็กน้อยส่งให้ผู้เป็นแม่
“ขอบคุณครับ”มยองซูส่งยิ้มให้พยาบาลก่อจะประคองลูกน้อยเข้ามาในอ้อมกอด ดวงตากลมมองหน้าลูกชายอย่างรักใคร่
“เป็นยังไงบ้างลูก”จีนาเดินเข้ามาหาลูกชายพร้อมกับแม่ของซองกยูพรางเอ่ยถามอาการ
“มึนๆนิดหน่อยครับแม่”มยองซูว่า
“เจ็บแผลไหม”แม่ของซองกยูถามอน่างเป็นห่วง
“เจ็บครับ”
“ง้้นเดี๋ยวแม่อุ้มตาหนูให้ดีกว่า”จีนาว่าแล้วเอื้อมมือจะไปอุ้มเด็กน้อนแต่มยองซูก็ไม่ยอมปล่อย
“ผมอุ้มได้ครับ”
“แม่ลูกอ่อนก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ คงจะหวงลูก”แม่ของซองกยูพูดขึ้นมาขำๆก่อนจะชะโงกเข้ามาดูหน้าหลานใกล้ๆ
“หน้ายังยับอยู่เลยยังดูไม่ออกว่าหน้าเหมือนใคร”
“ฉันขอให้หน้าเหมือนมยองซูแล้วกันค่ะ”จีนาเอ่ยขำๆแต่มยองซูกลับทำหน้านิ่ง แม้กระทั่งตอนเขาคลอดอีกฝ่ายก็ไม่คิดจะมาดูลูกเลย
“มยองซู เป็นไงบ้าน”เสียงซองจงดังขึ้นพร้อมกับ้สียงฝีเท้าหลายคู่ที่เดินตามเข้ามา
“สวัสดีครับแม่”ชายหนุ่มทั้งห้าคนโค้งให้ผู้ใหญ่ทั้งสอง
“คุณน้ามาอยู่นี้ด้วยหรอครับ”ซองยอลถามแม่ของซองกยู
“ลูกสะไภ้ฉันคลอดลูกนะจ้ะ ฉันก็ต้องมาดูหลานฉันสิแล้วนี้ตัวแสบนั้นไม่มาด้วยเหรอ”พูดติดตลกเพราะเธอเองก็สนิทสนมกับเพื่อนซองกยูอยู่ไม่น้อยก่อนจะถามหาลูกชายตัวดี
“ไม่ครับ ป่านนี้มันคงเมาเละนอนอยู่คอนโดนั้นแหละ”โฮวอนว่าแล้วมองหน้ามยองซูอย่างเห็นใจ
“ฉันว่าฉันต้องขายคอนโดนั้นทิ้งแล้วแหละเด็กนั้นถึงจะนอมกลับบ้าน”
“แม่ว่ามยองซูคงอยากพักผ่อนแล้ว เราออกไปข้างนอกก่อนเถอะ”จีนาพูดออกมาเมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของลูกชายที่ต้องมาฟัฃเรื่องของซองกยู
“แต่ผมพึ่งมาถึงนะครับแม่ อยากคุยกับมยองซูอะ”อูฮยอนว่าอย่างงอแง
“ไว้ค่อยมาใหม่ก็ได้ มยองซูเพิ่งผ่าคลอดต้องพักผ่อนมากๆ”
“ครับ”แล้วชายหนุ่มทั้งห้าคนก็เดินคอตกออกไปจากห้องพักผู้ป่วยทันที
“เดี๋ยวแม่ให้พยาบาลมาเอาตาหนูออกไปลูกพักผ่อนเถอะ”จีนาลูบหัวลูกชายเบาๆอย่างอ่อนโยนก่อนกดเรียกพยาบาลให้มาเอาเด็กไปไว้ในห้องเด็กอ่อน
“ฉันกลับก่อนดีกว่าค่ะ”แม่ซองกยูว่าก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่ายแล้วเดินออกไปจากห้อง
5 เดือนผ่านไป
“เดี๋ยววันนี้แม่จะไปรับซอจุนมาที่นี้”แม่ของซองกยูเอ่ยขณะที่เดินสวนทางกับลูกชายที่เพิ่งกลับบ้าน
“ใครครับซอจุน”ซองกยูถามอย่างงงๆเขาเองก็เพิ่งกลับมาอยู่บ้านได้แค่สามวันเลยไม่รู้ว่าซอจุนอะไรนี้คือใคร
“ลูกแกไง”
“มยองซูคลอดลูกแล้วหรอ”ซองกยูถามเสียงแผ่ว
“ใช่ แกหัดสนใจลูกเมียบ้างนะตั้งแต่หนูมยองซูตั้งท้องจนคลอดลูกออกมาได้ห้าเดือนแล้วแกคิดจะไปดูแลเขาไหม”ผู้เป็นแม่บ่นอย่างไม่ชอบใจ เธอคิดว่าซองกยูจะรู้แล้วซะอีกว่ามยองซูคลอดลูกแล้วในเมื่อวันนั้นเพื่อนๆซองกยูก็มาเยี่ยมมยองซูแต่มันคงไม่แปลกหรอกที่เพื่อนๆจะไม่บอกอะไรลูกชายเธอหรือบอกแล้วแต่ซองกยูไม่ใส่ใจเอง
“ลูกเมียอะไรล่ะแม่ ผมยังโสดอยู่”ซองกยูเถียงหน้าด้านๆทั้งๆที่ในใจกำลังรู้สึกเจ็บปวด ตั้งแค่มยองซูหายไปจากชีวิตเขาไม่มีวันไหนที่เขาไม่คิดถึงอีกฝ่าย ตอนเลิกกันยังพอได้เห็นหน้าที่มหาลัยบ้าง แล้วตอนนี้ลูกกับมยองซูจะเป็นยังไงบ้าง เขาไม่กล้าบากหน้าไปหาอีกฝ่ายหรือแม้แต่เพื่อนเขาที่หน้าจะพอรู้เรื่องเขาก็ไม่กล้าถาม
“เออ แล้วแต่แกเถอะ”ผู้เป็นแม่พูดขึ้นอย่างไม่พอใจก่อนจะเดินไปขึ้นรถและขับออกไปเพื่อไปรับหลานมาอยู่ที่บ้าน
“ซอจุนคุณย่ามาแล้ว”มยองซูบอกลูกน้อยที่กำลังหัดนั่งอย่างหยอกล้อ
“ไงหลานรัก วันนี้ถึงคิวไปอยู่บ้านย่าแล้วนะ”แม่ของซองกยูว่าก่อนจะอุ้มเด็กน้อยมาไว้ในอ้อมกอดอย่างรักใคร่ เด็กคนนี้หน้าเหมือนซองกยูตอนเด็กอย่างกับแกะ แต่ยังดีที่ได้ดวงตาโตๆของแม่มาบ้างแต่ดูยังไงก็อาตี๋ดีๆนี้เอง
“อ้าว มาแล้วหรอค่ะคุณคังฮี”จีนาว่าหลังจากเดินออกมาจากห้องครัวแล้วเห็นคุณย่ากำลังอุ้มหลานเดินไปมา
“เดี๋ยวผมขอไปจัดกระเป๋าให้ลูกก่อนนะครับ”มยองซูว่าแล้วเดินไปห้องที่อยู่ชั้นล่างของบ้าน แม่ให้เย้ายมาอยู่ห้องข้างล่างกับลูกจะได้ไม่ต้องเดินขึ้นบันไดให้เมื่อย
“อ้าวแค่กระเป๋าซอจุนหรอ”คังฮีถามเพราะปกติเธอจะมารับมยองซูกับลูกไปอยู่บ้านในบางครั้งเพราะอยากเห็นหน้าหลาน ซึ่งมยองซูต้องจำใจไปเพราะถ้าเอาไปแค่เด็กซองจุนต้องร้องไห้งอแงหาแม่ตลอดไม่มีใครเอาซอจุนเข้านอนได้นอกจากมยองซู
“ไม่ดีกว่าครับ”มยองซูบอกหน้าตาไม่สู่ดี
“ทำไมล่ะ”จีนาถามลูกชายเพราะปกติมยองซูก็จะอยู่กับลูกตลอดเวลา
“ผมได้ข่าวว่าเขากลับมาอยู่บ้านแล้ว”มยองซูพูดเสียงแผ่วมีเหตุผลเดียวที่เขาไม่ไปกับลูกเพราะซองกยู เขาไม่อยากเจอหน้าผู้ชายคนนั้น แต่จะไม่ให้ลูกไปก็ไม่ได้เมื่อคุณย่าเองก็อยากเลี้ยงหลานเหมือนกัน
“อ่อ งั้นไม่เป็นไรเดี๋ยวเอาไปอยู่แค่สองวันพอ”คังฮีว่า มยองซูจึงพยักหน้ารับเพราะปกติจะไปอยู่เป็นอาทิตย์
“เป็นเด็กดีนะครับซอจุนอย่าทำให้ย่าปวดหัว”มยองซูว่าก่อนจะกดจมูกลงไปที่หน้าผากของลูก
“เดี๋ยวให้เด็กไปด้วยดีกว่าค่ะจะได้ช่วยอุ้ม ให้คุณขับรถ”จีนาว่าแล้วเรียกเด็กให้ไปกับคังฮี
“ไปก่อนนะ”คังฮีว่าแล้วส่งซอจุนให้สาวรับใช้อุ้มเพื่อให้เธอได้ขับรถ ความจริงเธอก็ไม่อยากพลากแม่พลากลูกแต่เธอก็อยากให้ลูกชายได้เห็นหน้าลูกเช่นกัน เผื่อจิตใต้สำนึกความเป็นพ่อจะทำงานบ้าง
“อุแว๊ แงงงงง”เสียงเด็กน้อยดังขึ้นหน้าบ้านทำให้ซองกยูถอนหายใจอย่างหงุดหงิด
“ทำยังไงดีค่ะคุณคังฮี คุณหนูร้องไห้ไม่หยุดเลย”พอห่างจากอกแม่เด็กน้อยก็ร้องไห้ไม่หยุดตลอดทางจนคุณย่านึกถอดใจอยากพากลับไปส่ง แต่ก็มีแรงผลักดันที่จะพามาบ้านให้ได้เพื่อให้พ่อลูกได้เจอหน้ากัน
“เดี๋ยวเอานมให้กินแล้วกัน”คังฮีว่าแล้วเอื้อมมือไปอุ้มเด็กน้อยไว้ก่อนจะพยักหน้าให้อีกฝ่ายไปชงนม สาวใช้คนนี้เป็นทั้งคนใช้และพี่เลี้ยงซอจุนด้วยเพราะเธอจะอยู่กับมยองซูตลอดเวลาเพื่อให้ความช่วยเหลือ
“ไง พ่อตัวดีแต่งตัวแบบนี้จะออกไปไหนอีกล่ะ หายเมาขี้ตาแล้วเหรอ”เอ่ยทักลูกชายที่กำลังเดินผ่านห้องนั่งเล่นไป
“โหยแม่ บ่นอะไรเนี่ย”ซองกยูว่าผู้เป็นแม่อย่างหงุดหงิด
“ไม่คิดจะมาดูหน้าลูกหน่อยเหรอ”
“ไม่ ผมรีบ ไปก่อนนะ”ว่าจบก็เดินออกจากบ้านไปทันที จนผู้เป็นแม่ได้แต่ถอนหายใจด้วยความอ่อนใจที่ลูกชายไม่เอาไหนแบบนี้
“ไงมึงกลับไปอยู่บ้านไม่กี่วันหน้าตาดูไม่ดีเลยแม่บ่นเยอะหรอว่ะ”ยงฮวาเอ่ยทักซองกยูที่เดินเข้ามานั่งที่โต๊ะ
“เออดิ แล้วพาเด็กมาด้วยกูรำคาญชิพหาย”ซองกยูว่าก่อนจะหยิบแก้วที่มีหญิงสาวชงให้ขึ้นมาดื่มาวดเดียวจนหมด
“เด็กที่ไหนว่ะ”ยงฮวาถาม วันนี้เขานัดกับซองกยูแค่สองคนเพราะเพื่อนคนอื่นต่างก็อยากพักผ่อนเพราะเหนื่อยจากการทำงาน เขาเองก็รู้จักซองกยูจากร้านเหล้านี้แหละถือได้ว่าเป็นคู่หูกันเลย
“ลูกกูเอง”ซองกยูตอบปัดอย่างรำคาญ
“ห้ะ ลูกมึง”
“เออ อย่าถามมากกูไปเต้นล่ะ”พอพูดจบก็เดินเข้าไปหาหญิงสาวที่ส่งสายตาแพรวพราวให้เขาตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านแล้ว ยงฮวาที่มองอยู่อดงงไม่ได้
“มีคนรำคาญลูกตัวเองอยู่บนโลกนี้ด้วยหรอว่ะ”
“แง๊ แง๊”ซองกยูเดินโซซัดโซเซเข้ามาในบ้านก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงเด็กร้อง
“คุณซองกยูค่ะ”สาวใช้ในบ้านเรียกซองกยูเบาๆเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังเดินเข้าไปในห้องของซอจุน
“แม่หายไปไหนทำไมปล่อยให้เด็กร้องแบบนี้”ซองกยูถามพรางมองเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของสาวใช้จากบ้านมยองซู
“คุณผู้หญิงไปทำธุระค่ะ ฉันกับจิเอเลยต้องคอยดูแลคุณหนูแต่ทำยังไงก็ไม่หยุดร้องเลย สงสัยคงคิดถึงแม่”
“ออกไปก่อนไปเดี๋ยวฉันจะดูเอง”สาวใช้ตาโตมองซองกยูอย่างอึ้งๆ
“แต่ว่า..”
“ฉันจะดูลูกฉันเอง”ซองกยูเอ่ยเสียงเข้มทำให้สาวใช้ต้องมองหน้ากันงงๆก่อนจะเดินออกจากห้องเมื่อซองกยูส่งสายตาดุๆมาให้
“แง๊ ฮึก แง๊”
“ทำไมร้องหนักขนาดนี้ว่ะ”ซองกยูมองเด็กน้อยที่นอนร้องไห้อยู่ในเปลด้วยสานตาหนักใจ
“ไหนดูสิ”ร่างสูงค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ก่อนจะอุ้มเด็กน้อยเข้ามาแนบอกพรางลูบหลังเบาๆเหมือนที่เขาเคยเห็นในทีวีอย่างอ่อนโยน
“ฮึก”เด็กน้อยสะอึกเบาๆก่อนจะค่อยๆหลับไป ซองกยูค่อยๆเผยยิ้มออกมาเป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสเด็กใกล้ขนาดนี้ อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ที่หัวใจเต้นแรงแปลกๆและไม่สาทารถหุบยิ้มลง
“ลูกพ่อ”ซองกยูค่อยๆวางเด็กน้อยลงบนเตียงก่อนจะนอนลงข้างๆแล้วต้องมองใบหน้าน่ารักที่ดูคล้ายคลึงกับตัวเอง แต่ดวงตากลมโตที่สบกับเขาเมื่อกี้กับคล้ายมยองซูอย่างประหลาด
“หึ ไม่ผิดหวังที่ออกไปทำธุระตอนนี้”คังฮีว่าแล้วมองภาพลูกชายที่นอนหลับอยู่ข้างๆเด็กน้อย คนเป็นพ่อลูกกันยังไงมันก็คงตัดกันไม่ขาดเหมือนที่มยองซูบอกเธอว่าไม่ได้ต้องการพรากลูกพรากพ่อใครมยองซูถึงได้ยอมให้เด็กน้อยมาอยู่บ้านเธอบ้างบางคราว
“แชะ”กดถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกก่อนจะเดินออกไปจากห้องปล่อยให้พ่อลูกได้อยู่ด้วยกัน
“อุแว๊ แง๊”เสียงร้องไห้ทำเอาซองกยูสะดุ้งตื่นก่อนจะหันไปมองหน้าต่างยังไม่เช้าดีด้วยซ้ำท้องฟ้ายังมืดๆอยู่เลย
“ตื่นเช้าจังว่ะ”ซองกยูบ่นขึ้นแต่ก็ค่อยๆประคองเด็กน้อยเข้ามาในอ้อมกอดแล้วลูบหลังเหมือนที่ทำเมื่อคืนแต่ซอจุนก็ไม่หยุดร้องไห้
“แม่ แม่ ลูกผมร้องไม่หยุดเลยทำไงดี”ร่างสูงเดินออกจากห้องพรางตะโกนเรียกผู้เป็นแม่เสียงจนอีกฝ่ายต้องเปิดประตูออกมาดูด้วยความงัวเงีย
“ไหนดูสิ โอ๋ๆไม่ร้องนะ”คังฮีเดินเข้าไปอุ้มเด็กน้อยจากซองกยูแล้วกล่อมเบาๆ
“ทำไมไม่หยุดร้องล่ะ”ซองกยูถามผู้เป็นแม่เมื่อเด็กน้อยไม่ม่ทีท่าว่าจะหยุดร้อง
“สงสัยจะคิดถึงแม่ ปกติก็มีแค่มยองซูคนเดียวที่เอาอยู่”คัวฮีตอบพรางลอบสังเกตอาการลูกขายก่อนจะยกยิ่มออกมาเมื่ออีกฝ่ายเริ่มทำหน้าเศร้า
“ผมก็พ่อนะ เขากลัวผมหรอ”ซองกยูว่าอย่างน้อยใจ
“เคยดูแลเขาด้วยเหรอ แล้วกลิ่นเหล้าหึงขนาดนี้ไปนอนกับลูกได้ไง”
“แต่เขาก็หลับได้นะแม่ พอผมอุ้มก็เลิกร้องด้วยนะเมื่อคืน”ซองกยูเถียง
“เขาคงดีใจที่พ่ออุ้มเขาแหละ”ซองกยูชะงักไปทันทีเมื่อคำพูดของผู้เป็นแม่จบ ร่างสูงก้มมองลูกนิ่งๆก่อนจะลูบหัวเบาๆ
“เขาจะกลับบ้านวันไหน”
“ถ้าเป็นแบบนี้ก็ต้องเอาไปส่งให้แม่วันนี้แล้วแหละ มยองซูก็คงจะห่วงลูกเหมือนกัน”
“แล้วปกติแม่พามาปะ”
“มาเดือนละครั้ง แต่มยองซูจะมาด้วย”
“แล้วทำไมคราวนี้ไม่มา”
“ก็เพราะแกอยู่บ้านไงเขาเลยไม่มา”
“ถ้างั้นวันนี้เดี๋ยวผมจะไปส่งลูกเอง”ซองกยูว่าพรางมองหน้าผู้เป็นแม่อย่างจริงจัง
“ไม่กลัวคุณจีนายิงหรอ เขาเกลียดแกมากนะ”คังฮีถามลูกชายอย่างเป็นห่วง
“ผมอยากคุยกับมยองซู”ซองกยูตอบเสียงแผ่วๆ
“อ่าๆงั้นไปอาบน้ำไปเดี๋ยวตาหนูแม่จัดการเอง”คังฮีว่าแล้วอุ้มเด็กน้อยกับเข้าไปในห้องก่อนจะชงนมให้กิน ถ้าซองกยูคิดได้จริงๆมันก็ดี ครอบครัวจะได้เป็นครอบครัวสักทีและเธอก็ขอให้มยองซูให้อภัยลูกชายเธอด้วย
มยองซูนั่งทำหน้าเศร้าชะเง้อคอมองไปทางหน้าบ้านหวังให้คังฮีเอาลูกมาคืนเขาเพราะอดห่วงซอจุนไม่ได้ เขาเป็นแม่เขารู้ดีว่าลูกเป็นยังไง ซอจุนค่อนข้างเลี้ยงยากและติดแม่ คนอื่นอุ้มไม่ค่อยได้ไม่รู้ว่าป่านนี้ได้นอนรึป่าว
“คิดถึงลูกหรอ”จีนาถามลูกชายที่นั่งทำหน้าเป็นกังวลในห้องนั่งเล่น
“ครับผมเป็นห่วงลูก”มยองซูว่าแล้วมองผู้เป็นแม่อย่างเศร้าๆ
“ไม่เอาน่า คุณคังฮีเป็นย่าเขาเลี้ยงหลานเขาได้อยู่แล้ว”
“ผมก็หวังให้เป็นแบบนั้นครับ”
“คุณมยองซู คุณจีนาค่ะ”ทั้งสองคนหันไปมองตามเสียงก็เห็นสาวใช้ที่ให้ไปดูแลซอจุนกำลังเดินเข้ามาหา
“อ้าว ทำไมกลับมาล่ะ ยังไม่ถึงสองวันเลย”จีนาถามคนใช้ส่วนจีเอก็ทำหน้ากลืนไม่เข้าคลายไม่ออกจนมยองซูขมวดคิ้วกลัวว่าลูกจะเป็นอะไร
“เอ่อ…”
“คุณแม่สวัสดีครับ”ทั้งสองสายตาหันไปมองตาตามเสียงก่อนจะเบิกตากว้าง
“ซองกยู/พี่ซองกยู”จีนาและมยองซูพูดชื่ออีกฝ่ายออกมาพร้อมกับอย่างทึ่งๆเมื่อเห็นซองกยูอุ้มซอจุนเดินเข้ามาในบ้าน
“มาทำไม”จีนาถามเสียงแข็งมองซองกยูอย่างไม่พอใจก่อนจะค่อยๆสงบสติลงเมื่อลูกชายเอื้อมมือมาลูบแขนเบาๆ
“ผมมาส่งซอจุนน่ะครับ”ซองกยูตอบแล้วมองหน้ามยองซูนิ่งๆ
“อ่อหรอ เด็กนี้รบกวนนายใช่ไหม”จีนาว่าแล้วเดินไปอุ้มหลานจากซองกยู
“ร้องไห้ไม่หยุดเลยครับแม่เลยให้เอามาส่ง สงสัยจะคิดถึงแม่”
“ไหนขอแม่ดูหน่อย”มยองซูไม่ได้พูดอะไรแต่เดินเข้าไปอุ้มลูกก่อนจะทำท่าเดินเข้าห้องแต่ต้องชะงักเมื่ออีกฝ่ายเรียกไว้
“มยองซู พี่ขอคุยด้วยหน่อย”ซองกยูเรียกพรางมองแผ่นหลังบอบบางด้วยสายตาอ่อนไหว
“จะคุยอะไร มาส่งเสร็จแล้วก็กลับได้แล้วซองกยู”จีนาพูดขึ้นมาเพราะรู้ดีว่ายังไงมยองซูคงไม่อยากคุยกับซองกยูแน่
“นะครับ คุยกับพี่ก่อน”ซองกยูบอกเสียงอ้อนวอน มยองซูจึงถอนหายใจเบาๆก่อนจะส่งลูกให้ผู้เป็นแม่ แล้วเดินไปหลังบ้านโดยไม่พูดอะไรสักคำแต่ซองกยูก็เดินตามไป
“มีอะไรก็พูดมา ผมให้เวลาพี่สามนาที”มยองซูยืนกอดอกหันหลังให้ซองกยูก่อนจะสะดุ้งเมื่อถูกโอบกอดจากด้านหลังร่างบางพยายามดึงแขนซองกยูออกแต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมปล่อย จึงยืนนิ่งๆให้ซองกยูกอดอยู่แบบนั้น
“พี่ขอโทษ พี่รู้ว่าพี่ผิด เราอาจจะโกรธพี่มากพี่ขอโทษจริงๆเราจะให้พี่ทำอะไรก็ได้ขอแค่ให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม พี่รู้ตัวแล้วว่าพี่รักเรา รักมากกว่าใคร กลับมาเป็นเหมือนเดิมนะมยองซู ให้พี่ได้ดูแลเรากับลูกชดใช้ความผิดที่พี่เคยทำ ให้ลูกมีทั้งพ่อและแม่เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ ยกโทษให้พี่เถอะนะ”
“ครบสามนาทีแล้วครับ”มยองซูรวบรวมแรงดึงแขนซองกยูออกจากเอวก่อนจะหันไปมองอักฝ่ายและก้าวถ่อยหลังสองก้าวเพื่อเว้นระยะห่าง
“ผมให้อภัยพี่ไม่ได้ ไม่ใช่แค่โกรธแต่ผมเกลียด ไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมเพราะตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว พี่ดูแลลูกได้ผมไม่ได้ว่าอะไรแค่อย่ามายุ่งกับผมก็พอ”มยองซูตอยเสียงแข็งทุกคำถามที่ซองกยูถาม ร่างสูงมองร่างบางอย่างเหนื่อยใจเขาคงรู้ตัวช้าไปจริงๆ
“มยองซูพี่รู้พี่ผิดพี่ขอโทษ”ซองกยูจะเข้ามากอดร่างบางอีกคร้้งแต่มยองซูก็เบี่ยงตัวหลบก่อน
“พี่ทำร้ายชีวิตผมและพี่ก็บอกให้ผมฆ่าลูกของเรา กว่าพี่จะคิดได้มันก็สายไปแล้ว อย่าทำแบบนี้เลย”มยองซูตอบเสียงเรียบแต่แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“แค่วันนี้พี่รับว่าเขาเป็นลูกผมก็ดีใจแล้ว”พอพูดจบก็เดินผ่านหน้าซองกยูไปทันทีโดยไม่คิดจะหันมามอง ร่างสูงมองตามแผ่นหลังบางจนลับสายตาแฃะร้ำตาลูกผู้ชายก็ไหลออกมา
“พี่มันเลวเองมยองซู”
End.
ความคิดเห็น